
Maldives in Thailand
Maldives Gallery
by Artificial Intelligence (AI)



Construction General
9 Slides of Pond






1.) การสอบถาม AI Chat GPT เพื่อนำ หัวข้อ และข้อเสนอแนะ ต่าง ๆ มาให้ทีมที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสถาปัตย์เป็นโจทย์และนำไปปรับใช้ในการออกแบบกำแพงคอนกรีตกั้นดิน ที่ต้องการความปลอดภัย ความแข็งแรง แล้วยังต้องคำนึง สิ่งเล็ก ๆ ที่สำคัญ คือ ให้ความสวยงาม สอดคล้องภูมิทัศน์และเสริมธรรมชาติด้วย
การสร้าง Concrete Retaining Wall เพื่อล้อมพื้นที่สำหรับสร้างเกาะเทียมบนแผ่นดินสูง 7-10 เมตร ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ทั้งทางวิศวกรรมโครงสร้าง ธรณีวิทยา และเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อม โดยองค์ประกอบหลัก ๆ มีดังนี้
1. การออกแบบทางวิศวกรรมโครงสร้าง
การคำนวณแรงดันดิน (Lateral Earth Pressure) และน้ำใต้ดิน
ต้องพิจารณาแรงดันดินด้านหลังกำแพง (Active Pressure)
แรงดันดินด้านหน้ากำแพง (Passive Pressure)
น้ำหนักของตัวกำแพงเอง (Self-weight)
แรงจากคลื่นหรือกระแสน้ำ (ถ้ามี)
ชนิดของกำแพงกันดินที่ใช้ได้
Gravity Wall – ใช้น้ำหนักตัวเองเป็นตัวต้านแรงดันดิน
Cantilever Wall – ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีฐานรากช่วยพยุง
Counterfort Wall – มีแผ่นครีบเสริมด้านหลังเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
Sheet Pile Wall – ใช้เหล็กหรือคอนกรีตหล่อในที่ กรณีที่ดินไม่มั่นคง
2. องค์ประกอบสำคัญของกำแพงกันดิน
ฐานราก (Foundation)
อาจใช้ Spread Footing หรือ Pile Foundation ขึ้นอยู่กับชนิดของดิน
ฐานควรมีขนาดที่รับน้ำหนักได้เพียงพอและป้องกันการทรุดตัว
ผนังหลักของกำแพง (Wall Body)
ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete)
ความหนาของกำแพงต้องสัมพันธ์กับความสูงของดินด้านหลัง
ระบบระบายน้ำ (Drainage System)
ติดตั้ง Weep Holes หรือ Drainage Pipes เพื่อลดแรงดันน้ำ
ใช้ชั้นกรวด (Gravel Filter) หรือ Geotextile เพื่อช่วยการระบายน้ำ
ระบบกันการพังทลาย (Erosion Protection)
อาจใช้หินเรียงกัน (Riprap) หรือพืชคลุมดินช่วยป้องกันการกัดเซาะ
3. การพิจารณาเงื่อนไขทางธรณีวิทยา
ตรวจสอบประเภทของดิน และระดับน้ำใต้ดิน (Soil and Groundwater Investigation)
วิเคราะห์ค่ากำลังรับน้ำหนักของดิน (Bearing Capacity)
ตรวจสอบเสถียรภาพของลาดดิน (Slope Stability Analysis)
4. การควบคุมคุณภาพและการก่อสร้าง
ใช้คอนกรีตที่มีค่ากำลังรับแรงอัดเหมาะสม เช่น 25-35 MPa
เสริมเหล็กตามมาตรฐาน ACI หรือ Eurocode
ควบคุมงานเทคอนกรีตให้ได้มาตรฐาน และใช้แบบหล่อที่แข็งแรง
5. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและกฎหมาย
ปฏิบัติตามกฎหมายก่อสร้าง เช่น พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร
พิจารณาผลกระทบต่อระบบนิเวศ ถ้าเป็นพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ
2.) ขั้นตอนการก่อสร้างแต่ละงานของโครงการ MIT และ การใช้ AIเพื่อแนะนำการออกแบบก่อสร้างกำแพงคอนกรีตกั้นดิน
Vicharn Group VG ใคร่ขอเสนอดังนี้ ข้อ1.) การสอบถาม AI เพื่อนำ หัวข้อ และข้อเสนอแนะ ต่าง ๆ มาให้ทีมที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสถาปัตย์เป็นโจทย์และนำไปปรับใช้ในการออกแบบกำแพงคอนกรีตกั้นดิน ที่ต้องการความปลอดภัย ความแข็งแรง แล้วยังต้องคำนึง สิ่งเล็ก ๆ ที่สำคัญ คือ ให้ความสวยงาม สอดคล้องภูมิทัศน์และเสริมธรรมชาติด้วย
ข้อ 2.) แนวทางให้การทำงานการก่อสร้างในแต่ละงานของโครงการ MIT ที่มีควรจะมี ดังนี้ 1.) VG มีการจัดเก็บการวางแผนก่อสร้าง การกำหนดงบประมาณและบันทึกค่าใช้จ่าย และ การประเมินผลงาน ในแต่ละขั้นตอนของงานโดยระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรม ไตรลักษณ์Trinity ที่จัดทำโดย The SUN Academy
2.) มีการปรึกษาคณะที่ปรึกษา และผู้มีประสบการณ์ หลายด้าน
3.) Kick Off การก่อสร้างงานนั้น ไปเส้นทางของข้อสรุปตามข้อ 2 4.) คัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง พร้อมขอให้บริษัทส่งคลิปแสดงผลงาน 5.) คัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาเพื่อตรวจคุณภาพการก่อสร้าง พร้อมขอให้บริษัทส่งคลิปแสดงผลงาน 6.) สร้างผังและเส้นเวลาTime Line การก่อสร้างแต่ละงาน 7.) VG จัดการประชุมผู้เกี่ยวข้องตามข้อ 4 และ 5 ตามเวลาที่กำหนด 8.) QC โดยคณะที่ปรึกษา และ ผู้แทนของ VG ภายในเป็นช่วงๆ 9.) VG ส่งโดรนบินสำรวจ เป็นระยะ ๆ
10.) ประเมินผลงานการก่อสร้างเป็นระยะ โดย VG และจะแสดงบางส่วนบน Website 11.) VG ทำคลิป และส่งผลงานความก้าวหน้าของงานให้ผู้ลงทุนใหญ่ หรือ ผู้แทน เป็นระยะ 12.) ผู้รับเหมาส่งมอบงาน พร้อมส่งคลิป 3D 13.) บริษัทที่ปรึกษาส่งผล QC
14.) คณะที่ปรึกษา และ VG พิจารณาตามข้อ12 และ 13 15.) VG แจ้ง ผู้เกี่ยวข้องตาม ข้อ12 และ 13 เพื่อแก้ไขปรับปรุงงานที่ควรแก้ไข (ถ้ามี ) 16.) บริษัทที่ปรึกษาแจ้งผลการตรวจสอบการแก้ไขงานตามข้อ 15 17.) คณะที่ปรึกษาและ VG ตรวจสอบการแก้ไขงานตามข้อ 15 18.) VG ยืนยันความสมบูรณ์ของงาน
19.) VG ส่งผลการก่อสร้าง และสรุปงบประมาณ ในงานนั้น ๆ ส่งผู้ลงทุนใหญ่ หรือ ผู้แทน 20.) VG จัดหาบริษัทประกันภัย
21.) VG จัดหาบริษัทที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างที่เป็นส่วนกลางรวมทั้งโครงการ เพื่อตรว เสร็จสิ้นให้แก่นิติบุคคล
22.) VG สรุปปิดงานนั้น
23.) อนึ่ง VG สามารถแสดงรายจ่ายในแต่ละวันและในแต่ละงานให้ผู้ตรวรสอบบัญชี หรือ ผู้แทนผู้ลงทุนใหญ่ได้ กัน

การฟอกอากาศและการถ่ายเทอากาศภายในสิ่งปลูกสร้างใต้น้ำ โดยการแนะนำจาก AI Chat CPT โดยเฉพาะในบริเวณที่อากาศส่วนใหญ่เป็นอากาศหนัก (Dense Air) ต้องอาศัยระบบที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรักษาคุณภาพอากาศและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย ระบบที่ใช้ได้มีดังนี้:
1. ระบบฟอกอากาศ (Air Purification Systems)
✅ ระบบกรองอากาศแบบหลายชั้น (Multi-Stage Filtration System)
ใช้ HEPA Filter หรือ ULPA Filter เพื่อกรองฝุ่นละอองและเชื้อโรค
ใช้ Activated Carbon Filter สำหรับดูดซับก๊าซพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์
อาจเสริมด้วย Catalytic Converter เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และสารเคมีตกค้าง
✅ ระบบออกซิเดชันขั้นสูง (Advanced Oxidation Process - AOP)
ใช้แสง UV-C และไททาเนียมไดออกไซด์ (TiO₂) ในการสร้างปฏิกิริยาออกซิเดชัน เพื่อทำลายเชื้อโรคและสารอินทรีย์ระเหย (VOCs)
✅ ระบบผลิตออกซิเจนเสริม (Oxygen Generation Systems)
ใช้เครื่องผลิตออกซิเจนจากโมเลกุลอากาศ (Oxygen Concentrators)
อาจใช้เครื่องแยกไนโตรเจน (Nitrogen Separation System) เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน
2. ระบบถ่ายเทอากาศ (Air Exchange & Ventilation Systems)
✅ ระบบแลกเปลี่ยนอากาศแบบแรงดัน (Pressurized Air Exchange System)
ใช้ ระบบอัดอากาศ (Compressed Air System) เพื่อส่งอากาศสะอาดเข้ามาภายในสิ่งปลูกสร้าง
ปรับแรงดันให้สูงกว่าน้ำโดยรอบ เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้ามา
✅ ระบบระบายอากาศแบบควบคุมความดัน (Pressure-Controlled Ventilation System)
ใช้ อากาศหมุนเวียนแบบปิด (Closed Loop Ventilation) เพื่อกรองและนำอากาศกลับมาใช้ใหม่
ใช้ตัวควบคุมคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂ Scrubber) เพื่อลดการสะสมของ CO₂
✅ ระบบการไหลเวียนอากาศผ่านท่อใต้น้ำ (Submerged Air Duct System)
ใช้ท่ออากาศต่อเชื่อมกับพื้นผิวหรือสถานีแลกเปลี่ยนอากาศเพื่อดึงอากาศใหม่เข้ามา
ใช้พัดลมดูดอากาศใต้น้ำแบบพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมแรงดันสูง
✅ ระบบใช้พืชในการปรับปรุงอากาศ (Biofiltration & Phytoremediation Systems)
ใช้ พืชน้ำและสาหร่าย ที่สามารถดูดซับ CO₂ และปล่อยออกซิเจน (เช่น Spirulina และ Duckweed)
สามารถใช้ร่วมกับ ระบบตู้ปลาทางชีวภาพ (Aquaponics Air Filtration)
3. ระบบควบคุมอากาศอัจฉริยะ (Smart Air Management Systems)
✅ เซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศ (Air Quality Sensors)
ตรวจวัดระดับออกซิเจน (O₂), คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂), และความชื้น
ควบคุมอัตโนมัติโดย AI ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตใต้น้ำ
✅ ระบบปรับสมดุลก๊าซแบบเรียลไทม์ (Real-Time Gas Balancing System)
ใช้ AI + Machine Learning ในการควบคุมและปรับสมดุลอากาศ
เชื่อมต่อกับระบบถ่ายเทอากาศเพื่อเพิ่มออกซิเจนและลดก๊าซพิษอัตโนมัติ
ตัวอย่างการใช้งานจริงในสิ่งปลูกสร้างใต้น้ำ
✅ Biosphere 2 (โครงการจำลองระบบนิเวศแบบปิด) – ใช้ระบบฟอกอากาศและควบคุมออกซิเจนแบบปิด
✅ SEALAB (สถานีวิจัยใต้น้ำของสหรัฐฯ) – ใช้ระบบอัดอากาศเพื่อรักษาสมดุลแรงดัน
✅ Poseidon Undersea Resort (โรงแรมใต้น้ำในฟิจิ) – ใช้ระบบหมุนเวียนอากาศและกรองความชื้น
💡 สรุป:
การฟอกและถ่ายเทอากาศในสิ่งปลูกสร้างใต้น้ำต้องใช้ ระบบกรองขั้นสูง + ระบบอัดอากาศ + ระบบควบคุมแรงดัน ควบคู่กัน เพื่อให้มั่นใจว่ามีออกซิเจนเพียงพอและลดปริมาณ CO₂ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของสภาพแวดล้อมที่ปิดใต้มหาสมุทร
